ณกฤช เศวตนันทน์ นบ. (เกียรตินิยม) นบท. นม. Nakrit Sawettanan ACIArb ที่ปรึกษา www.aec-advisor.com แม้ว่าประเทศสมาชิกอาเซียนจะมีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจยังถือได้ว่าล้าหลังหากเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วโดยเฉพาะเมื่อวัดด้วยอัตราส่วนของจำนวนทางหลวง ทางรถไฟและการเข้าถึงไฟฟ้าต่อประชากรแต่ละคน ดังนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนหรือ ASEAN Finance Ministers จึงมีแนวคิดร่วมกันให้มีการจัดตั้ง “กองทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน” (ASEAN Infrastructure Fund) หรือเรียกโดยย่อว่า “กองทุน AIF” ขึ้น การจัดตั้งกองทุน AIF เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือทางการเงินของประเทศสมาชิกอาเซียนที่จะร่วมมือกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคโดยมีวัตถุประสงค์ในการเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งภายในและระหว่างพรมแดนของประเทศสมาชิกอาเซียนกับทั้งส่งเสริมการนำเงินออมภายในภูมิภาคอาเซียนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสนับสนุนทางการเงินสำหรับการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน กองทุน AIF มีสถานะทางกฎหมายเป็นบริษัทจำกัด จดทะเบียนในประเทศมาเลเซียซึ่งก็เป็นชาติที่ลงเงินทุนเบื้องต้นสูงที่สุดคือ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กองทุน AIF มีอำนาจในการทำสัญญาและดำเนินการต่างๆ ในนามของตนเอง มีทุนเริ่มต้นทั้งหมด 485.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นเงินร่วมลงทุนที่มาจากประเทศสมาชิกอาเซียนจำนวน 335.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ยกเว้นประเทศพม่าซึ่งยังไม่ได้เข้าร่วมในกองทุนนี้ และมาจากธนาคารพัฒนาเอเชียหรือ Asian Development Bank: ADB จำนวน 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ADB นอกจากจะเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในกองทุนนี้แล้วยังทำหน้าที่เป็นผู้บริหารกองทุนและเป็นผู้ให้ความมั่นใจว่าการลงทุนทั้งหลายของกองทุน AIF นี้จะดำเนินไปอย่างสมเหตุสมผลในทางการเงินด้วย สำหรับประเทศไทยมีสัดส่วนการลงเงินทุนจัดตั้ง 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 450 ล้านบาทและมีสิทธิในการออกเสียงร้อยละ 3.09 การชำระเงินเข้ากองทุน AIF จะแบ่งออกเป็น 3 งวดเท่าๆ กันซึ่งประเทศสมาชิกจะต้องชำระเงินงวดแรกภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2555 งวดที่เหลือจะต้องชำระเมื่อครบรอบของแต่ละปีของการชำระเงินงวดแรก เป้าหมายของกองทุนคือการให้การสนับสนุนเงินกู้กับโครงการต่างๆ ประมาณ 6 โครงการต่อปี ในแต่ละโครงการมีเพดานการกู้ยืม (Project Limit) ไม่เกิน 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โครงการที่จะได้รับเงินทุนจากกองทุน AIF นอกจากจะต้องเป็นโครงการที่เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแล้วยังต้องเป็นโครงการที่สามารถลดความยากไร้ ส่งเสริมการค้า และกระตุ้นการลงทุนได้ และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับกองทุน ในช่วง 3 ปีแรกของการดำเนินการ กองทุน AIF จะให้เงินกู้เฉพาะโครงการที่เป็นของภาครัฐหรือโครงการที่รัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันเท่านั้น เมื่อกองทุนได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือได้ตามเป้าหมายที่ระดับ AA แล้ว กองทุนจึงจะพิจารณาโครงการของภาคเอกชน (Private Sector Development) ต่อไป โดยภายในปี ค.ศ. 2020 กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนตั้งความหวังว่าโครงการนี้จะสามารถปล่อยเงินกู้ได้เพิ่มขึ้นในระดับ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีมูลค่าทางการเงินด้านต่างๆ รวมทั้งหมดสูงกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์ กองทุน AIF ถือเป็นก้าวสำคัญที่ประเทศสมาชิกได้ร่วมลงทุนจัดตั้งเป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งจะมีส่วนช่วยพัฒนาความเชื่อมโยงทั้งในด้านการซื้อขาย การขนส่งสินค้า การค้าบริการและการลงทุนภายในภูมิภาค กับทั้งกองทุน AIF...
Home »
Posts by Parattakorn
Free Business Matching
Leave your information and how you want to do business in AEC countries. We will match you with the other Fans then advise you.
Joint Venture
Buy/Sale of Shares
Buy/Sale of Assets
Merger/Acquistion
Invest by Land
Invest by Labor
Recent Comments